กระบวนการเกิดและแหล่งที่พบปิโตรเลียม
ปิโตรเลียม คือ สารผสมที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน มีคุณสมบัติในการเผาไหม้แล้วให้พลังงานได้ดี เกิดจากซากพืชและซากสัตว์ที่ตายทับถมและคลุกเคล้ารวมกับตะกอนของดินเหนียว ดินทราย และหินปูน เป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อเวลาผ่านไปซากพืชซากสัตว์และตะกอนต่าง ๆ ที่ทับถมกันเหล่านี้ จะถูกชั้นดินและหินที่เกิดขึ้นใหม่ทับถมจนจมลงไปสู่ระดับที่ลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งความกดดันสูงที่เกิดจากชั้นดินและหินที่ทับถมกันอยู่ด้านบน และความร้อนสูงจากใต้พื้นผิวโลกนี้เองที่ทำให้ตะกอนและซากพืชซากสัตว์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปเป็นปิโตรเลียม ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ตามสถานะ คือ น้ำมันดิบ (Oil) ซึ่งเป็นของเหลว และแก๊สธรรมชาติ (Natural Gasses) ซึ่งเป็นแก๊ส
ปิโตรเลียม คือ สารผสมที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน มีคุณสมบัติในการเผาไหม้แล้วให้พลังงานได้ดี เกิดจากซากพืชและซากสัตว์ที่ตายทับถมและคลุกเคล้ารวมกับตะกอนของดินเหนียว ดินทราย และหินปูน เป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อเวลาผ่านไปซากพืชซากสัตว์และตะกอนต่าง ๆ ที่ทับถมกันเหล่านี้ จะถูกชั้นดินและหินที่เกิดขึ้นใหม่ทับถมจนจมลงไปสู่ระดับที่ลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งความกดดันสูงที่เกิดจากชั้นดินและหินที่ทับถมกันอยู่ด้านบน และความร้อนสูงจากใต้พื้นผิวโลกนี้เองที่ทำให้ตะกอนและซากพืชซากสัตว์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปเป็นปิโตรเลียม ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ตามสถานะ คือ น้ำมันดิบ (Oil) ซึ่งเป็นของเหลว และแก๊สธรรมชาติ (Natural Gasses) ซึ่งเป็นแก๊ส
ปิโตรเลียมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์และดินตะกอนต่าง ๆ แต่เราสามารถพบปิโตรเลียมได้เฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น เนื่องจากการเกิดปิโตรเลียมจะต้องอาศัยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมในการเกิดปิโตรเลียมที่สำคัญของโลก ได้แก่ บริเวณแถบตะวันออกกลางของทวีปเอเชีย โดยประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีปิโตรเลียมอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ จังหวัดกำแพงเพชร แหล่งวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ แห่งแก๊สธรรมชาติภูฮ่อม จังหวัดอุดรธานี และแหล่งแก๊สธรรมชาติบริเวณอ่าวไทย เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น